วันอาทิตย์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2552

ราฟาทำให้แฟนหงษ์ยิ้มได้

ดาบิด ซิลบา ชื่อนี้หลายๆคน คงจะคุ้นกันดี หนึ่งในนักเตะที่มีการพัฒนาการมากที่สุดของ ทีมชาติสเปน และ บาเลนเซีย เมื่อน้าราฟา ของเราให้ความสนใจ
ที่จะเซ็นต์ สัญญาคว้ามาลากเลื้อยที่ แอนฟิล ส่วนค่าตัว คงไม่ต่ำกว่า 25 ล้านปอร์นเป็นแน่ และปีกอีกหนึ่งตัว ที่ น้าราฟา สนใจอยู่คือ เลนน่อลของสเปอร์นั่นเอง
แม้เลนน่อล เพิ่งจะต่อสัญญาใหม่ก็ตาม แต่ส่วนตัวนักเตะก็สนใจ หงษ์แดงอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน ค่าตัว น่าจะไม่เกิน 15 ล้านปอร์น และกองกลางที่น้าราฟา รอลุ้น
อยู่นั้นคงไม่พ้น แบรรี่ กองกลางทีมชาติอังกฤษ ของแอสตันวิลล่า ที่ปีก่อนเกือบย้ายมาสวมชุดหงษ์แดงแล้ว ติดที่การตกลงค่าตัวของนักเตะ ข่าวล่าสุดบอกว่า
ค่าตัวที่น้าราฟาเตรียมยื่นอยู่ที่ 400 ล้านบาทเท่านั้นเอง.

สดุดีฟอร์มการเล่น 3 นัดล่าสุด

คงจะไม่มีใครกล้าปฎิเสธ การเล่นล่าสุดของหงษ์แดง ทั้ง สามนัดที่ยิงคู่แข่งเป็นว่าเล่น ไล่มาตั้งแต่ กดแชมป์จากสเปน รีลมาดริด ที่แอนฟีล 4-0
ตามมาด้วย บุกไปสอยแมนยู คาบ้าน คู่แข่งสำคัญตลอดกาล 4-1 แบบสู้กันไม่ได้ และแฟนแมนยู ก็ออกมายอมรับกับการเล่น นัดแพ้คาบ้านว่า หงษ์เล่นดีมากจริงๆ ตามมาด้วยนัดล่าสุด ที่เปิดบ้าน ถล่ม วิลล่า ทีมฟอร์มตก ไป 5-0 ด้วยพี่เจิดเรา คว้า แฮตทริกไปด้วย หลังจากนัดที่ชนะ วิลล่า มา ทำให้ สื่อจากหลายๆ
สำนักออกมา ชมหงษ์แดง กันเป็นการใหญ่ ส่วนผมใน สภาพหนึ่งในกองเชียร์หงษ์แดงมาตลอดก็ยิ้ม อยู่ในใจลึกๆว่าปีนี้แหละที่ ทีมรักเราจะมีลุ้นมากที่สุด 1 แต้มที่
ตามอยู่ แม้แมนยูแข่งน้อยกว่า 1 นัดก็ตาม เอาเป็นว่าต้องคอยลุ้นกันอีก 8 นัดที่เหลือว่าหงษ์แดง เรา จะเก็บได้ทุกแต้มหรือไม่ แต่น้าราฟา มั่นใจมากว่า ชนะทุก เกมส์แน่นอน

วันจันทร์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2552

อีกหนึ่งความภาคภูมิใจของอคาเดมี่ลิเวอร์พูล




วันนี้อย่างที่สัญญาครับที่จะนำนักเตะดาวรุ่ง จาก อคาเดมี่มาเล่าให้ฟัง เริ่มจาก เจย์ สเปียริ่ง เลยละกัน

Jay Spearing (เจย์ สเปียริ่ง) กองกลางเด็กปั้นที่เป็นความภาคภูมิใจของอคาเดมี่ลิเวอร์พูลวัย 19 ปี คนนี้น่าจับตาทีเดียว ได้โอกาสโชว์ฝีเท้าในเกมอุ่นเครื่องทุกนัดที่ผ่านมา และฟอร์มการเล่น ทำให้เดอะค็อปนึกไปถึงอดีตกองกลางผู้ปราบผี แดนนี่ เมอร์ฟี่ ผู้นี้นี่เอง แม้จะตัวเล็กมาก แต่ก็ใจสู้บู๊ไม่ถอยสไตล์สเกาเซอร์ แถมมีลูกยิงอันหนักหน่วงเป็นอาวุธในแถวสองของราฟาได้อีก น่าดูๆ...เจย์ คือนักฟุตบอลที่มีพรสวรรค์และไหวพริบและความเฉลียวฉลาดในการเล่น ขาเป็นคนรูปร่างและแต่หัวใจใหญ่ และเป็นผู้เล่นที่ตะโกนเสียงดังตลอดเวลาที่อยู่ในสนามเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยม


เขาเป็นกัปตันทีมของสโมสรในทุกระดับของจูเนียร์ทีมจนกระทั้ง ยู-18 และเป็นนักเตะที่อ่านเกมได้ดี เขาเป็นผู้เล่นที่มีค่าเฉลี่ยในการเล่นสูง โดยตำแหน่งแล้วเขาเล่นเป็น Central midfielder แต่เขายังสามารถเล่นได้ดีในตำแหน่ง centre defence และตำแหน่ง right back
เขาสามารถทำให้ตัวเองลงเล่นครั้งแรกในชุด ยู-17 ปีในฤดูกาล 03/04 ซี่งเขาอายุเพียง 15 ปี แต่ถึงอย่างไรก็ตามด้วยความที่เขาขาดซึ่งประสบการณ์ทำให้ในนัดแรกเขาเล่นได้ไม่ดีนักเขาถูกดร็อปให้กลับไปเล่นในทีม ยู 16 ปีช่วงเริ่มต้นฤดูกาล 04/05 เขาได้รับหน้าที่เป็นหัวใจหลักของทีมซึ่งผลของการแข่งขันทั้งฤดูกาลเป็นที่น่าประทับใจอย่างมาก และเขาก็ได้รับโอกาสให้เลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในชุด ยู -18 ปีเพื่อลงเล่นใน Youth cup เขาลงเล่นในตำแหน่ง centre midfield ถึงอย่างไรก็ตามเขากลับถูกให้ลงเล่นในตำแหน่ง defence ในทีมชุด ยู 16 ปี ซะส่วนใหญ่

ในช่วงออกสตาร์ท ของฤดูกาล 05/06 เขาเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม และแม้แต่สามารถทำประตูชัยได้ในเกมเยือนที่โบโร่ ก่อนที่เขาจะประสบปัญหาขาหักในเกมที่ 4 ของฤดูกาลเท่านั้น หลังจากหายบาดเจ็บกลับมาเขายังคงเล่นได้ดีอย่างเคย เขายังคงเล่นในจังหวะเสี่ยง 50/50 ในช่วงเริ่มต้นเกมไม่กี่นาทีของการกลับมาลงเล่นเกมแรกของเขา(หลังขาหัก) และนั่นทำให้เขามีชื่อติดเป็น 1ในทีมเพื่อลงแข่ง Youth cup ก่อนเส้นตาย

ด้วยลิเวอร์พูลหวังที่จะจบเกมด้วยสกอร์ที่ได้เปรียบอยู่ 3-2 ในเลกที่ 2 ของนัดชิงชนะเลิศกับแมนซิตี้ สตีฟ ไฮเวย์ จึงส่งนักเตะคนหนึ่งที่หวังว่าจะไปช่วยให้ทีมแน่นขึ้น ในช่วงไม่กี่นาทีก่อนหมดเวลาเจย์ลงไปทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม เขาตะโกนให้กำลังใจเพื่อนร่วมทีม และ Make sure ว่าเพื่อนร่วมทีมของเขาไม่ตื่นเต้นเกินไปจนขาดสติ เขาเกิดมาเพื่อเป็นผู้นำอย่างแท้จริง และจากฤดูกาลนั้นเขากลายเป็นผู้สวมปลอกแขนกัปตันทีม ยู 18 ปีของทีม


พูดถึงเรื่องรูปร่างที่เล็กของเขา. เจย์เคยถูกส่งให้ลงเล่นในตำแหน่ง Centre back ในเกม youth cup 06/07 ซึ่งเขาก็เล่นได้อย่างยอดเยี่ยม การอ่านเกมของเขาและการเข้าสกัดที่แข็งแกร่งทำให้เขาเป็นเรื่องยากที่อีกฝ่ายจะผ่านเข้าไปได้ ด้วยฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมของเขาในนัดชิ่งที่ Old Trafford และช่วยทีมลิเวอร์พูลรักษาแชมป์ไว้ได้ ทำให้สตีฟ ไฮเวย์ไม่รอช้าที่จะออกมาให้สัมภาษณ์กับทางสกาย สปอร์ตหลังจบเกม ว่า"กัปตันทีมของเราพร้อมที่จะเล่นให้กับทีมชุดใหญ่แล้วตอนนี้" เขาเล่นได้สุดยอดจริงๆ
อย่างไรก็ตามการเล่นที่ยอดเยี่ยมในการเป็นหัวใจหลักในเกมรับของเจย์ให้กับทีมชุด ยู-18 แต่เจย์นักไม่ค่อยมีความสุขกับการลงเล่นในตำแหน่งที่ตัวเองมีความสูงไม่พอ ระหว่างฤดูกาลดำเนินอยู่เขาพยายามใช้โชว์ฟอร์มให้ดีในทีมสำรอง และเขาก็สามารถทำไ้ด้โดยได้รับเลือกให้เป็น man of the match ในหลายๆเกมในตำแหน่ง middle midfield ให้ทีมสำรองของแกรี่ แอ็บเล็ตต์



ในช่วงจบฤดูกาล เจย์ได้ถูกย้ายถาวรให้มาเล่นที่เมลวูด และมีชื่อในทีมสำรองไปรวมแข่งขัน รายการ ยู-20 ที่อิตาลี พวกเขาได้ลงเล่นกับทีมเช่น อินเตอร์ฯ และเอซีมิลาน และทีมอื่นๆที่เข้าร่วมรายการ ซึ่งพวกเขาจบการแข่งขันในอับดับที่ 3 หลังจากแพ้การยิงจุดโทษในรอบรองชนะเลิศ เจย์ลงเล่นในตำแหน่ง Midfield และได้รับคัดเลือกให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมของรายการ หลังนั้นไม่กี่เดือนเขาได้ลงเล่นคู่กับสตีเว่น เจอร์ราดในเกมอุ่นเครื่องกับครูว์ และเขาก็ทำได้ดีด้วย


โดยเฉพาะหลายเกมส์เริ่มได้ลงเล่นมากขึ้น เลยอยากให้ติดตามดูฟอร์มกันไปเรื่อยๆครับ โดยส่วนตัว


ผมว่าการเล่น คล้าย พี่ เจิด เราผสมกับรูปร่างที่เหมือน เมอร์ฟี่ คือ เตี้ยแต่ แกร่งครับ และชอบยิงดับ ผีแดงครับ..

โหลด clip ลิเวอร์พูลได้ที่นี่ครับ




เพื่อนๆที่มี คลิป เด็ดๆฝากไว้ให้เพื่อนเราดูได้นะครับ


เกมส์ เชือด แมนยูครับ (ขอบคุณ tyler ด้วยครับ)


http://www.uploadd.com/download.aspx?pku=29FF31FE928T6H41DL3SHZP6JPCS9H
เพลง สี่หนึ่ง เกมส์แดงเดือด แมนยูแพ้ 1-4

http://www.uploadd.com/download.aspx?pku=29FF3213FCWRONWR31MOR8X3QFT[DL
คลิป 3gp สำหรับดูในมือถือครับ

คลิ๊กที่ลิงค์ได้เลยนะครับ เดี๋ยวจะมาอัพเดทเรื่อยๆครับ
และช่วยแสดงความคิดเห็นด้วยนะครับ จะได้มีกำลังใจหาสิ่งดีๆมาฝากกันอีก

วันอาทิตย์ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2552

3 แต้มที่ได้มาจากผีแดงเก่งหรือเฮง




เหลือเชื่อครับสำหรับเกมส์แดงเดือดที่จบไปก่อน ที่ผมนั่งโพสกระทู้นี้ ได้ 20 นาที ด้วยชัยชนะที่ได้มา 4-1 วันี้ลิเวอร์พูลเล่นได้อย่างครบเครื่องมากเริ่มกันตั้งแต่ลูกแรกที่ แมนยูได้จุดโทษ จากการฟาวส์ของ เรน่าที่ออกมาตัดบอลช้า ทำให้เบรคไม่อยู่เลยชน ปาร์คจีซุง เป็นจุดโทษ หลังจากนั้น แมนยูก็ยังเปิดเกมส์รุกเช่นเดิม และ หงษ์แดงก็โต้กับเป็นระยะ และได้ ประตูจากความผิดพลาดของ วิดิช ที่สกัดบอลพลาด ทำให้ตอร์เรส ฉกบอลมา ตีเสมอ 1-1 และการขึ้นเกมส์ก่อนหมดเวลาครึ่งแรก เจอร์ราด โดน เอฟร่า รวบในกรอบเขตโทษ เป็นจุดโทษของ หงษ์แดงบ้าง


และ เจอร์ราดซัดไม่เหลือ ขึ้นนำ 2-1 จบครึ่งแรกไปแบบสนุกมากครับ เริ่มครึ่งหลังยังเป็นแมนยู ที่เปิดเกมส์รุก ต่อเนื่อง เพื่อหวังตีเสมอ และ อเล็ก เฟอร์กูสัน แก้เกมส์ โดยเปลี่ยนทีเดียว 3 คนแต่แล้ว การผ่านบอลของหงษ์แดงวันนี้ทำให้ กองหลังแมนยู ผิดพลาดไปหมด และเป็นเจอร์ราดที่หลุดไป และโดน วิดิช ดึง กางเกงแทบขาด บริเวณหัวกระโหลก วิดิชเลยไม่พลาดที่จะได้ ใบแดงไป และเป็น ฟรีคิก ของ ออเลนิโอ่ เท้าซ้าย ปั่นนิ่มๆ เข้าเสาแรก ให้ลิเวอร์พูล นำ 3-1 หลังจากนั้น หงษ์แดง เปลี่ยนตัว โดยถอด ริเอร่า ที่เล่นไม่ออก โดยส่ง เทพ ดอสเซน่า ที่พึ่งยิง ประตู มาดริด หมาดๆ ลงเล่น และส่ง บาเบล แทนตอร์เรส และมีจังหวะส่วนใหญ่จาก ลิเวอร์พูล ที่โอกาสทำประตูมากกว่า


และก่อนหมดเวลา สิ่ง แฟน เดอะ คอป ไม่คาดคิด เมื่อลิเวอร์พูล ได้บอลโยนยาวมาในแดนหน้า และบาเบล ขึ้น โหม่งเพื่อสร้างจังหวะและเป็นดอส เซน่าที่วันนี้ไม่ เซหลัง วิ่ง แซงโอเชีย และแปรแบบเดาะ ตระกร้อ บ้านเรา ข้ามหัว น้าซาร์ เป็นเม็ด 4-1 ให้หงษ์เก็บชัยที่แน่นอน หลังจากนั้นก็ถอด เจอร์ราด โดยส่ง ดาวรุ่ง เอลซา ลงมา จบเกมส์ หงษ์ 4 แมนยู 1 เป็น 3 แต้มที่ได้มาแบบตาม แท็คติก ของ น้าราฟา เขาที่วางกลาง แน่น มาก อ้อ ลืมบอกไปว่าวันนี้ ลูคัส เล่น แทน ตำแหน่ง อลอนโซ่ ครับ และทำได้ดีเช่น กันแม้ว่าจะผ่านบอลไม่แน่นอน เหมือน อลอนโซ่ ก็ตาม แต่เอาเป็นว่า หงษ์ของเรา ลดแต้ม เหลือ 4 จาก 7 แต้มแล้ว แม้ว่าแมนยูจะแข่งน้อยกว่า 1 นัดก็ตาม และที่สำคัญ วิดิช ต้องโดนโทษ แบน 3 นัด


ด้วยครับ เอาละหลังจากโชว์ฟอร์ม เทพเรียกพี่ มา 2 นัดติด หวังว่า คงไม่มีอาการ วูบอีกนะครับ พี่หงษ์ เดี๋ยวพรุ่งนี้มาว่ากันต่อ ในเรื่องของดาวรุ่งบ้าง จบดีกว่าวันนี้ รู้สึกว่าจะมีเรื่องคุยกับเพื่อนที่ เชียร์แมนยูในวันพรุ่งนี้ แบบว่าเขามั่นใจเกิน ร้อยครับแต่ดันพลาดให้ ดอสเซน่า ยิงได้ คิดดูเอาละกัน.

วันนี้ ผีจะหลง หรือ หงษ์จะบิน




วันแดงเดือดเวียนมาเจอะเจอกัน อีกครั้ง วันนี้ถึงคิว เดอะคอปต้องมีคิวไปเยือน ผีแดงบ้างหลังจากที่นัดแรก หงษ์เปิดบ้าน เฉือนผีแดงแบบเสียวไส้ ไป 2-1 วันนี้ความคาดหวังของ ผมส่วนตัวคิดว่าวันนี้ ขอ 1 แต้มจาก แมนยู ก็เพียงพอแล้ว(แม้ลึกๆจะหวัง 3 แต้มจากผีก็ตาม)การจัดตัวก่อนเปิดศึกแดงเดือด คิดว่าไม่น่าจะเปลี่ยนจาก นัดที่ ชนะ มาดริด 4-0 นัก โดย ประตูเจ้าเก่า เรน่า แบ็คขวา อเบลัว แบ็คซ้าย ออเลนิโอเซ็นเตอร์คู่กลาง คาราเกอร์ กับ สเคอเทล กลางคู่ ใช้ อลอนโซ่ กับ มาสเคราโน่ ตัวทำเกมส์ฝั่ง ซ้ายเดาใจ ราฟายาก เพราะมี อัลเบิร์ต ริเอร่ากับ บาเบล


ที่รายหลังเริ่มทำผลงานได้เข้าตามากขึ้น ขวา ท่านแด๊ก เค้าท์ คงจะไม่ผิดนัก และ เจอร์ราด ทำหน้าที่เป็น หน้าต่ำตามถนัดโดยมี เอลนิลโย่ เป็นตัวปิดสกอร์นแดนหน้า จะว่าไปนี่ คือชุดที่ดีที่สุดของ หงษ์เลยทีเดียว โดยใช้ระบบ 4-4-1-1 ส่วนแมนยู ผมไม่ขอเดาใจอเล็ก เฟอร์กูสัน รูปเกมส์ โดยคาด ตาม ฉบับนัดแดงเดือด แมนยูบุกใส่แน่ ถ้า เจอกันที่โอลแทพฟอต และมี คีย์แมน อย่าง โรนัลโด รูนี่ เป็นตัวสร้างสรรค์เกมส์ ถ้าวันนี้ มาสเคราโน่ เล่นได้ อย่างกับวัน เจอมาดริด คิดว่า วันนี้ สู้กันสนุกแน่ เผลอๆอย่างที่ผมบอกไว้ อาจมีลุ้น 3 แต้มก็เป็นได้ แต่ยังไง ก็ขอเชียร์


เต็มที่แล้วกัน แม้ สื่อ ทั้งในและนอกประเทศ จะเทใจให้แมนยูทั้งหมด ด้วย สกอร์ 2-0 / 2-1 / 1-0 คือง่ายไม่ให้ หงษ์แดงเรามีแต้มกับบ้านเลย ดูจะเป็นการใจร้าย สำหรับ เหล่า เดอะคอป ทุกท่าน ยิ่ง เรท การพนัน เปิดมา ที่ ครึ่งลูก ยิ่งทำให้ แมนยูดูเป็นต่อมากขึ้นเอาละไม่ว่าผลจะออกมายังไง เลือดหงษ์ของเราก็คง เข้มข้น กันต่อไป พรุ่งนี้ จะมาคุยกันต่อ หลังเกมส์ ว่าเป็นอย่างไรบ้าง ว่า จะ สดุดี หรือต้องทำใจ.

UCL กับพรีเมียร์ลีกมันคนละถ้วย(ทำไมไม่เล่นให้เหมือนกันฟะ)





ผ่านไปสำหรับการบ้านใน UCL เป็นอีก 1 วันที่เหล่าเดอะคอปมีความสุข ใครที่ไม่ได้นอนเมื่อคืน ก็คงจะมีแรงลุกไปทำงานไหว เพราะทีมขวัญใจของเหล่าเดอะคอป เล่นฟอร์มที่เราไม่คาดหวังขนาดนี้ เล่นบอลเท้าต่อเท้าแม่นยำมาก และนอกจาก เจอร์ราด แล้วที่ฟอร์มเด่นสุด เมื่อคืนผมยกให้ มาสเคราโน่ ไอ้ ผึ้งงานแห่งแดนอาร์เจนไตน์ เล่นดีมาก ตัดเกมส์แดนกลาง ของ ราชันชุดขาว จนเปิดเกมส์ที่ไม่ถนัด การเข้าปะทะ การมาร์คตัว การเสียบสกัดที่บอกเลยว่า ถ้าเล่นได้อย่างเมื่อ คืน ได้ทุกนัด ค่าตัวคงไม่ต่ำกว่า 35 ล้านปอนด์เป็นอันแน่ แหม......นานๆจะได้ชมได้เต็มปากเสียที อีกคนที่เด่นใช้ได้ คือปีกจรวด ผิวหมึก ไรอัน บาเบล 1 แอสซิส และ การทำเกมส์ฝั่งซ้าย ที่ทำให้ น้าราฟา แทบจะลืม ริเอร่า ไปเลย ความเร็วบวกการพาบอล


ไปได้อย่างดี เล่นบอลเป็นทีมมากขึ้น (แหม พึ่งจะด่าไปวันเล่นกับ โบโร่มาวันนี้กลับมาชมกันเป็นการใหญ่) นี้และครับคือเกมส์ฟุตบอล ที่ยังต้องว่ากันไปนัดต่อนัด ส่วน ตอร์เรสผมจะไม่พูดมากยังรักษาฟอร์มได้ดีเยี่ยมหลังหายการบาดเจ็บ ทีนี้มาว่ากันถึง เกมส์รับ บ้าง จะว่าไป ช่วง 30 นาทีแรกพูดอย่างเป็นกลางนะครับ มาดริด แทบไม่ได้สร้าง ความอันตรายเลย ส่วนหนึ่ง ก็เกิดจาก ผึ้งงาน มาสเค ขยัน ตัดเกมส์ไม่ว่าจะมาทางบก หรือ อากาศ แกตัดได้หมด ทำให้เกมส์รับเล่นได้อย่างสบาย และ แบ็ค ทั้งสองข้างเล่นได้ดีทั้งรุกและรับ ทีแรกนึกว่าอเบรัว จะลงเล่นไม่ได้ เดี๋ยวพวกราฟา จัด สเคอเทล ไปเล่นแบ็คขวาอีกส่วน เปเป้ เรน่า ประตูหัวโล้นของเรา ก็โชว์ฟอร์มได้ดีกว่า มือ 1 ของสเปนในเวลานี้ (แต่จะว่าไปรีลมาดริด ที่เล่นดีที่สุดก็คือ คาซิยาส นี่แหละ)และที่สำคัญ


ดาวรุ่งที่ลงไปช่วงท้ายเกมส์ ชื่อ สเปริ่ง ลักษณะการเล่นนี่ต้องบอกว่า ถอดแบบมาจากเจอร์ราดเปี๊ยบ เลยครับ ทำให้ผมหวังว่าในอนาคตจะมีเจอร์ราด 2 มารับช่วงต่อ และไฮท์ไลด์ของเกมส์นี้ ผมขอยกให้ลูกยิงที่ แบ๊คซ้ายร่างอวบอั๋น ดอสเซหลัง ของเรา ลงมาปุ๊บยิงได้เลยครับเป็นเม็ดสุดท้าย เอาละครับ เมื่อดอสเซหลังยิงได้แล้ว เอ็นก็อก ยิงได้แล้ว และ ลูคัส ตัดผมแล้ว ผมหวังว่าคงมีข่าวที่ดีๆในเกมส์ เจอ ผีแดง ในสุดสัปดาห์นี้นะครับ.

วันอาทิตย์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2552

กรกฎา น้าราฟา พาหงษ์เทียวเมืองไทย


ข่าวดีสำหรับแฟนหงษ์ เมื่อน้าราฟา ตอบรับการมาทัวร์บ้านเรา เมื่อขุนพลนักเตะลิเวอร์พูลเตรียมยกพลมาเตะทัวร์สิงคโปร์, ฮ่องกง และกรุงเทพฯ ในช่วงเดือน ก.ค.นี้ เพื่อเสริมสร้างฐานกองเชียร์ในละแวกเอเชียให้เหนียวแน่นยิ่งขึ้น จากการเปิดเผยของผู้บริหารสโมสรแห่งแอนฟิลด์ เมื่อ 4 มี.ค. ที่ผ่านมา ทางด้าน "ราฟา" ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือหงส์ ชู ดาวิด เอ็นก๊อก หัวหอกตัวสำรองโชว์ฝีเท้าได้เด่น เช่นเดียวกับ เบนายูน และเรน่า ในเกมสังหารแมวดำ 2-0 ชี้เด็กๆ ทำดีแล้วรอเพียงให้ผีแดงพลาดก็จะทำให้มีลุ้นพรีเมียร์ลีก ด้าน กุส ฮิดดิ้งค์ ผจก.ทีมเชลซี ยกย่องหัวใจของพลพรรคสิงโตน้ำเงินคราม ที่ฝ่าความกดดันฮึดเอาชนะปอมปีย์ถึงถิ่น 1-0 ในช่วงท้ายเกม
พร้อมชูดร็อกบา ที่แม้เจอความยากลำบากแต่ก็สังหารชัยได้สำเร็จ ส่วน อาร์แซน เวนเกอร์ นายใหญ่ปืนโต ออกมายกย่อง นิคลาส เบนท์เนอร์ หัวหอกดาวรุ่งที่ซัดเบิ้ลให้อาร์เซน่อลกำชัย 3-1 ยกสปิริตของทีมกลับคืนมาแล้ว เชื่อแซงวิลล่าไปรั้งอันดับ 4 ของลีกได้แน่ ในการเตะพรีเมียร์ลีก เมื่อ 3 มี.ค. 52
คิดว่าชาวเดอะคอปทุกท่านคงจะได้เห็นฟอร์มของทีมที่เราเชียร์มาตลอด โดยส่วนตัวผมว่า นัดเจอกับทีมชาติไทย น้าราฟาน่าจะโรเตชั่นอีกแน่ๆเลย เพื่อนๆว่าไหม.

วันเสาร์ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2552

ชายที่มีชื่อ ดาวิด เอ็นก็อก หรือ เอ็นงก

David Ngog อ่านว่า เดวิด เอ็นก๊อก (แฟนลิเวอร์พูล หลายท่าน มีคนอ่านว่า เดวิด งก ผมก็เลยคิดว่าต้องทำความเข้าใจเรื่องชื่อ เพราะไม่งั้น บางรายอาจคิดว่าเขามาเพื่อหาเงินอย่างเดียว มีบางท่านหนักกว่านั้น ว่าคุ้ม

ที่ราฟา ไปดึงมาจาก psg แล้ว ปล่อย โวโรนิน ให้หญิงชรา แฮร์ธ่าไปใช้งานชั่วคราว แล้วช่วงนี้ก็ยิงแบบ อัดอั้น มาจาก แอนฟิลที่ราฟาไม่ค่อยให้โอกาส

นักเตะอายุ 19 ปี สัญชาติฝรั่งเศสรายนี้ เล่ากันว่าเขาเป็นหนึ่งในบรรดาดาวรุ่งของฝรั่งเศส หลายคนคิดว่าเซ็นต์มาแข่งกับนาสรีี่ของอาร์เซนอล ถึงแม้จะเป็นกำลังหลักในทีมฝรั่งเศสชุด U-19 และยิงได้ 3 ประตูจาก 3 นัด แต่ในฤดูกาล 2007-2008 กับ 18 นัดในนามของปารีส แซง เชแมงค์ ทำได้หนึ่งประตูเท่านั้น ถือว่าเป็นฟอร์มที่ค่อนข้างน่าผิดหวังและถูกปล่อยตัวมาแบบไม่เปิดเผยค่าตัวกับหงส์แดงด้วยอายุสัญญา 4 ปี

ส่วนทีั่ไม่จำเป็นต้องรู้ก็คือเขาเป็นลูกพี่ลูกน้องกับ ชอง อเลน บูมซง และมีสื่อบางรายให้ข้อมูลยกย่องว่า เขาคือ ” นิว อเนลก้า” ย้ำนะครับว่า นิว อเนลก้าอ่านไม่ผิดแน่ แต่ตอนนี้ ขอคล้ำเป้าไปเรื่อยๆก่อน ในฐานะที่เราเป็นแฟนหงษ์แดงแบบ ตลอดกาลก็ต้อง ดูกันยาวๆครับ.

ชัยชนะที่ต้องการจากแมวดำ



กลับมาพบกันรอบนี้ คงยิ้มกันได้ สำหรับแฟนหงษ์ตัวจริง หลังเปิดบ้านถล่ม แมวดำ แบบสู้กันไม่ได้เลย
ด้วยฟอร์มการเล่นที่เราคุ้นตากันเป็นอย่างดี ในช่วงเปิดฤดูกาล ผมจะไม่พูดอะไรมาก เพราะเราต้องลุ้นกันต่อ
เพราะ แมนยูเจอกับ นิวคาสเซิ่ล แล้วบดไป 2-1 ทั้งที่นิวคาสเซิ่ล เล่นได้ดีกว่า แต่ ผีแดง ก็เอาตัวรอดได้ คงต้องบอก ว่าต้องลุ้นนัดหน้ากัน ต่อไป ช่วงกลางสัปดาห์ มีคิว ฟาดแข้งกับ ราชันชุดขาว ก็อาจจะเป็นงานไม่ยากนัก เพราะ ลิเวอร์พูล ของเรา ถนัดเกมส์ ตั้งรับ แล้ว โต้กลับ ยิ่ง เล่น ในแอนฟิล แล้ว หน้าจะผ่าน มาดริด ได้ ครับ
มีหลายคนสงสัย กับนักเตะที่ชื่อว่า เอ็น ก็อก เขาคือใครเดี๋ยวช่วงหน้า ผม จะนำเสนอครับ.

วันอังคารที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2552

ตอเรส ลงไม่ได้แต่เจิดฟิตทันซดแมวดำ


วันนี้มาลุ้นกันก่อน ว่าจะมี 3 แต้มจาก แมวดำไหม แต่ที่แน่ๆ ตอร์เรส ไม่ได้ลงแน่ แต่ เจิด ฟิตทันครับ
อยู่ที่ราฟา จะจัดลงไหม แล้วมาดูการจัดตัวกันว่า จะทำร้ายจิตใจชาว The kop เราหรือไม่
เมื่อราฟากุนซือจอมเทกติก "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ออกมาเปิดเผยว่า ตอร์เรส ดาวยิงชาวสเปน จะไม่พร้อมลงสนามในเกมพรีเมียร์ลีกกับ "แมวดำ" ซันเดอร์แลนด์ คืนวันอังคารนี้ ส่วน เจอร์ราร์ด กัปตันทีมคาดว่าจะลงสนามได้ เจอร์ราร์ด ถูกเปลี่ยนตัวออกช่วงก่อนหมดเวลา 15 นาทีในเกมที่ ลิเวอร์พูล ทำผลงานน่าผิดหวังด้วยการบุกไปพ่ายต่อ มิดเดิลสโบรช์ 0-2 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ขณะที่ ตอร์เรส ได้รับบาดเจ็บข้อเท้าจากเกมแชมเปียนส์ ลีก
ที่ทีมบุกไปเอาชนะ รีล มาดริด 1-0 เมื่อกลางสัปดาห์ก่อน ล่าสุด เบนิเตซ ออกมายืนยันผ่านทางเวบไซต์ของสโมสรว่าทีมจะหมดสิทธิ์ใช้งาน ตอร์เรส รวมถึง อัลบาโร อาร์เบลัว และ ดาเนียล แอ็กเกอร์ สองผู้เล่นตำแหน่งกองหลัง แต่หวังว่า เจอร์ราร์ด จะสามารถลงสนามในเกมเปิดบ้านรับมือ ซันเดอร์แลนด์ "สตีวี อยู่ในสภาพที่ดีและหวังว่าจะลงสนามได้ในเกมวันพรุ่งนี้ แต่ ตอร์เรส จะไม่มีชื่ออยู่ในทีม เนื่องจากยังไม่พร้อมและเรากำลังรอดูว่าการฟื้นตัวของเขามีความคืบหน้าเป็นอย่างไร ส่วน อาร์เบลัว มีปัญหาเกี่ยวกับเอ็นหลังหัวเข่าซึ่งเป็นอาการบาดเจ็บเรื้องรังของเขาและต้องใช้เวลารักษาตัวอีกสัปดาห์" กุนซือชาวสเปน เปิดเผย ลิเวอร์พูล หลังจากเปิดบ้านรับมือ ซันเดอร์แลนด์ จะมีโปรแกรมแข่งพรีเมียร์ลีก อีกครั้งในวันที่ 14 มีนาคมซึ่งเป็นการออกเดินทางไปเยือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่สนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
แต่กลัวอย่างนึงว่า กฎการยิงประตูทีมเก่า อย่านำมาใช้ กับ ซิสเซ่นะครับ...

วันจันทร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2552

คุยเฟื่อง เรื่องบอลสเต็ป กับนานา ทัศนะ


ที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา ไม่ได้มี เจตนา ให้ เล่นการพนัน แต่อย่างใด แต่เพียงเพื่อเพิ่มความสนุก ของเพื่อนๆ ทุกท่านที่แวะเวียนเข้ามา เยี่ยมเยียน Blog ของเรา ยังไงอย่าจริงจังมากนะครับ จากใจ Hansangmi

บ่นให้ฟังหลังเกมส์ พ่ายโบโร่ 0-2 ราฟา หรือ นักเตะที่ไม่ได้เรื่อง


จบเกมส์ประมาณ เที่ยงคืน ผมเป็น The kop อีกคนที่นอนไม่หลับ เมื่อพบกับฟอร์มการเล่น ที่เทียบกับ เกมส์ มาดริด เป็นคนละเรื่อง ยังกับ ไม่ใช่ทีมเดียวกัน ไล่ตั้งแต่การจัด ตัววันนั้น ผมเซ็งตั้งแต่ จับ สเคอเทล ไปเล่น แบ็ค ขวา แล้วคู่ เซนเตอร์ ใช้ เจมี่ กับ น้าเฮียปู ซึ่งมันส่งผลกับเกมส์ทั้ง รุก และรับ ทางฝั่งขวา ซึ่ง สเคอเทล สอบตกทั้งที่ไม่ถนัดเลยในการเล่น แบ็คขวา (ผมไม่โทษสเคอเทล)ผมเซ็งกับ น้าราฟา มากกว่า ทั้งที่ คาราเกอร์ มีประสบการณ์ ตรง แบ็คมากกว่า และ ความคล่องตัวมากกว่า สเคอเทล แต่ดันใช้
สเคอเทลเล่น ทั้ง ครึ่ง แรก และ ครึ่งหลัง
ทีนี้มาว่ากันต่อ ถึง แผง กองกลางกันบ้าง ผมเข้าใจอยู่ว่า น้าราฟา ต้อง พักนักเตะบ้าง ด้วย การใช้ babel แทน riera และ ใช้ นาบิล เอลซา ปีกดาวรุ่ง เล่นปีกขวา แทน เบนายูน ที่ช่วงนี้ฟอร์ม สม่ำเสมอมาหลายนัด วันนี้ ปีกทั้ง สองฝั่ง ทำเกมส์น้อยมาก ทั้งที่ปีกทั้งสองมีความเร็ว วูบวาบ บ้างบางจังหวะของเกมส์ และ เอลซา มีโอกาส ยิงตีเสมอ 1 - 1 ด้วยเท้าซ้าย สัก 5 - 6 หลา พระเจ้าช่วยมันยิงข้ามคาน โห... ใครๆก็คิดว่า เป็นประตูแล้ว ส่วนบาเบล ทำเกมส์ไม่ได้เลยบอกได้คำเดียวว่า เซ็งครับ.. ส่วนคู่กลาง คือว่าทั้ง สอง อลอนโซ่ กับ มาสเค เล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐาน ไม่รวมลูกที่ เสียประตูแรก ที่ความซวยมาเยือน อลอนโซ่ บอลมาโดนขาเข้า ประตู ถ้าใครดูเกมส์อยู่ คงเห็นว่า อลอนโซ่ ตะโกนออกมา เป็น ภาษา สเปน ว่า ซวยฉิบ...าย
สังเกตุการตัดเกมส์ ตรงกลาง ไม่ค่อยมี กลางของโบโร่ เล่นง่ายมาก และอดจะพูดถึง เจอร์ราด ไม่ได้ ว่า ฟิต ไม่ถึง 80% น้าราฟา แกยังใส่ชื่อลงตัวจริง อีก สังเกตุได้ว่า การกระชากบอล ขึ้นทำเกมส์แบบได้ลุ้น ประตูมีแค่ สองจังหวะเท่านั้นเอง ส่วนน้า เด๊ก เค้า ตายสนิท คงหมด สัญชาตญาณ การเป็นกองหน้า ไปแล้ว อยู่ตรงไหน ก็ยิงไม่ได้ ในเกมส์นี้ ผมหวังว่าเกมส์นี้คงจะไม่ใช่ วันของ น้า เด๊ก ส่วน สำรองที่ ลงมา ทั้ง เอ็นก๊อก และ ลูคัส ไม่ได้ช่วยให้เกมส์ ดีขึ้น เลย ผ่าน คนเดียว คือ เบนายูน ที่ลงมา วูบวาบ บ้างในฐานะตัวสำรอง สรุป เรตติ่ง ฟอร์มการเล่น นักเตะ เรน่า 7 / สเคอเทล 5.5 / คาราเกอร์ 6.5 / ฮูเปีย 6.0 / ออเลลนิโอ่ 6.2 / เอลซา 5.8 / บาเบล 5.5 / อลอนโซ่ 5.8 / มาสเค 5.9 / เจอร์ราด 6.0 / เค้าช์ 5.8 สำรอง ลูคัส 5.0 / เอ็นก๊อก 4.8 / เบนายูน 5.9 ส่วนโค้ช ราฟาแท็กติค 4.5 / จัดตัว 4.1 / แก้เกมส์ 4.0 คงต้องทำใจกับ ราฟาไปอีกนาน ตราบที่ น้าฟา ยัง คุม บังเหียน ลิเวอร์พูลอยู่ทำใจกันนะครับ ชาว ลิเวอร์พูล....

มากไปไหมกับ 7 แต้มที่ตามแมนยูอยู่


คงจะเซ็งไปตามๆกันสำหรับชาวลิเวอร์พูล ทั้งขาจรและขาประจำ จากนัดที่ ทำได้แค่ไล่ตีเสมอ แมนซิตี้ 1 - 1 ทั้งๆที่มีโอกาสมากมายเหลือเกิน ทำให้แต้ม ตามหลังแมนยู ถึง 7 แต้ม ถ้าพูดตอนนี้ว่า คงหมดลุ้น อีกปีแล้วคงจะทำร้ายจิตใจ ชาว The kopกันเกินไป นอกจากฟอร์มการเล่นของแมนยู ที่สม่ำเสมอ แม้ยาม นัดที่เล่นไม่ดี แต่มีสกอร์แค่ 1 ตุง มาทำให้ได้ 3 แต้ม จาก เกมส์ ในบ้านและนอกบ้าน และยังคงทิ้งคะแนนห่าง ลิเวอร์พูล และ เชลซี อย่างต่อเนื่อง แม้ตอนที่ผม กำลังนั่ง โพส อยู่นี้ แมนยู ซิวแชมป์ คาร์ลิ่ง คัพไปแล้ว ด้วยการชนะ การดวลจุดโทษ สเปอร์ ไป 4 - 1 นั่งนอนกอดแชมป์แล้วหลายใบเหลือเกิน ในปีนี้ อดที่จะอิจฉาไม่ได้ เฮ้อ..........คงจะต้องตามลุ้นเกมส์ UCL กับมาดริด ที่นัดแรกทำได้ดี ด้วยการบุกไปชนะ 1-0 ที่เบอร์นาบิว มาด้วยฟอร์มที่ถือว่า ดีพอสมควร เดี๋ยวช่วงหน้า มาระบายอารมณ์กัน กับเกมส์ พ่าย โบโร่ แบบหมดรูป 0-2 กัน