วันศุกร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

อัพเดท ข่าว สตีวี่จี ฟิตทันซด ซิตี้

เซอร์ไพร์ สตีวี่จี มีลุ้นซด ซิตี้ อาทิตย์นี้ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ออกมาเปรย สตีเวน เจอร์ราร์ด กัปตันทีมไดนาโม อาจมีเซอร์ไพรส์รีเทิร์นลงเล่นในเกม พรีเมียร์ชิป อังกฤษ นัดวันอาทิตย์ที่ 22 กุมภาพันธ์นี้ที่จะเปิด แอนฟิลด์ รับการมาเยือนของ แมนเชสเตอร์ ซิตี และหวังว่า สตีวี่ จะมีสกอร์ มาฝากให้เราได้ชื่นใจ พร้อม บวก 3 แต้ม กดดันแมนยูต่อไป


และมีข่าวอัพเดท การซื้อขายนักเตะของหงษ์มาฝากครับ

สื่อลิเวอร์พูลเผยว่าราฟาเตรียมทุ่ม22ล้านปอนด์"เดลี มิร์เรอร์" สื่อชื่อดังของอังกฤษ เปิดเผยว่า "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เตรียมเปิดคลังกว่า 22 ล้านปอนด์(ประมาณ 1,200 ล้านบาท) เพื่อขอซื้อ ออสการ์ ซิเอลบา กองกลางเทคนิคดีของ "ไอ้นกแก้ว" เอสปันญอล มาร่วมทัพหลังจบฤดูกาลนี้ สื่อชื่อดังเชื่อว่า ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือชาวสเปน ของ ลิเวอร์พูล ต้องการได้กองกลางที่สามารถลงสนามในตำแหน่งปีกขวารายนี้มาเสริมทัพ โดยทางด้าน "เอล บอส" เชื่อมั่นว่า มิดฟิลด์รายนี้จะช่วยทำให้เกมรุกของ "เรด แมชชีน" ดีขึ้น โดยมีการคาดการณ์ว่า ราฟาเอล เบนิเตซ อาจจะเริ่มต้นเจรจาดึงนักเตะรายนี้มาร่วมงานก่อนจบฤดูกาลนี้เพราะจะเป็นการป้องกันไม่ให้ เอสปันญอล โก่งราคาดาวเตะรายนี้นั่นเอง ดูจากราคา บอกเลยว่าค่อนข้างแพง
และผมยังไม่เห็น ฟอร์มเลยว่าแน่แค่ไหน ต้องรอดูข่าวการเคลื่อนไหวได้ ที่ blog ของเรานะครับ.


วันนี้มีประวัติ ของกัปตันจอมแกร่งมาฝากชาว เดอะ คอป ด้วยครับ
สตีเวน จอร์จ เจอร์ราร์ด (Steven George Gerrard) เกิดวันที่ 30 พฤษภาคม ค.ศ. 1980 เป็นนักฟุตบอลทีมชาติอังกฤษรับตำแหน่งรองกัปตันทีมชาติอังกฤษ ปัจจุบันเล่นให้กับสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล ถูกแต่งตั้งเป็นกัปตันทีม จากอดีตผู้จัดการทีม เชราร์ อุลลิเยร์ ในฤดูกาล 2003-2004 ใส่หมายเลข 8
เจอร์จาร์ดได้รับตำแหน่งเป็นส่วนหนึ่งของสมาชิกแห่งจักรวรรดิบริเตน โดยราชินีอังกฤษ ในวันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2550 สตีเว่น เจอร์ราร์ด เป็นผลผลิตของโรงเรียนฟุตบอลลิเวอร์พูล (Liverpool Youth Academy) โดยเข้าร่วมสเป็นนักฟุตบอลเยาวชนของสโมสรตั้งแต่อายุ 9 ขวบ โดยเริ่มแรกเลยเขาเล่นมิดฟิลด์ทางด้านขวา และมิดฟิลด์ตัวกลาง
ฤดูกาล 1998-1999 เจอร์ราร์ดได้ลงเล่นในทีมชุดใหญ่ของลิเวอร์พูลเป็นนัดแรก ในนัดที่พบกับทีมเซลต้า บีโก้ ในแอนฟิลด์ โดยสิ้นสุดฤดูกาลนี้เขาลงเล่นให้ทีม 12 นัดซึ่งส่วนใหญ่ยังเป็นตัวสำรอง
ฤดูกาล 1999-2000 เจอร์ราร์ดได้มีโอกาสเล่นชุดใหญ่ของลิเวอร์พูลอย่างเต็มตัว โดยเขาลงเล่น 29 นัด ยิงได้ 1 ประตู ซึ่งเขาเปลี่ยนมาเล่นบทมิดฟิลด์ตัวปะทะ ทำให้ได้รับใบเหลือง และใบแดงบ่อยครั้ง
เจอร์ราร์ดถูกเรียกตัวติดทีมชาติอังกฤษเป็นครั้งแรก และมีชื่อติดทีมชาติอังกฤษชุดยูโร 2000 แต่เขาก็ได้แต่นั่งดูเกมในม้านั่งสำรองเท่านั้น
ฤดูกาล 2000-2001 เจอร์ราร์ดได้ลงเล่นในเกมลีก 33 นัด ยิงได้ 7 ประตู และลงเล่นในเกมยูฟ่าคัพอีก 9 นัดทำได้ 2 ประตู พาทีมลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ ลีกคัพ, ยูฟ่าคัพ และเอฟเอคัพ
ฤดูกาล 2001-2002 เจอร์ราร์ดลงเล่นในเกมลีก 28 นัดยิงได้ 3 ประตู และในเกมยูฟ่าแชมเปี้ยนลีกอีก 12 นัดกับอีก 1 ประตู เขาได้รับรางวัลนักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี(Young Player of the Year award)
เจอร์ราร์ด ถูกเรียกตัวติดทีมชาติอังกฤษชุดลุยศึกฟุตบอลโลกที่ประเทศเกาหลีใต้ และญี่ปุ่น แต่เขาเกิดมีอาการบาดเจ็บทำให้ไม่สามารถเดินทางร่วมทีมไปแข่งขันฟุตบอลโลกได้
ฤดูกาล 2002-2003 เจอร์ราร์ดลงเล่นในเกมลีก 34 นัด ยิงได้ 5 ประตู และลงเล่นเกมยุโรปอีก 11 นัด และพาทีมคว้าแชมป์ลีกคัพโดยเอาชนะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดคู่ปรับตลอดกาล
ฤดูกาล 2003-2004 เจอร์ราร์ด ลงเล่นในเกมลีก 34 นัด ยิงได้ 4 ประตู และลงเล่นในเกมยูฟ่าคัพ 8 นัด ยิงได้ 2 ประตู
เจอร์ราร์ดถูกเรียกติดทีมชาติอังกฤษชุดลุยศึกยูโร 2004 ที่โปรตุเกส โดยพาทีมเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย ก่อนพ่ายกับโปรตุเกสเจ้าภาพ
และในฤดูกาลนี้เจอร์ราร์ดได้รับแต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีมคนใหม่ของลิเวอร์พูล แทนที่ซามี่ ฮูเปีย
ฤดูกาล2004-2005 เขาลงเล่นในเกมลีก 30 นัดทำได้ 7 ประตู และพาทีมลิเวอร์พูลเข้าชิงลีกคัพกับเชลซีแต่แพ้ไป3-2โดยเขาทำเข้าประตูตัวเองซึ่งเป็นประตูตีเสมอ1-1อีกด้วยแต่ก็สามารถพาทีมคว้าถ้วยยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก โดยเอาชนะทีมเอซีมิลานจากการดวลจุดโทษ ซึ่งในครึ่งแรกทีมเอซีมิลานนำอยู่ถึง 3-0 แต่ลิเวอร์พูลกลับมาตีเสมอ 3-3
ฤดูกาล2005-2006 ประตูตีเสมอ Westham United (2-2) ในรอบชิงชนะเลิศ English FA CUP ส่งให้ลิเวอร์พูลเป็นแชมป์ในท้ายที่สุด ปรตูจากการยิงไกลระยะ 35 หลานี้เป็นหนึ่งในประตูยอดเยี่ยมของรอบชิงชนะเลิศตลอดกาล และทำให้สตีเฟน เจอร์ราร์ดเป็นนักเตะเพียงคนเดียวที่ทำประตูในรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลถ้วย 4 รายการใหญ่ League Cup กับ แมนฯ ยู , ยูฟ่าคัพ กับ อลาเบส และ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก กับ เอซี มิลาน
ฤดูกาล2006-2007 แม้จะช่วยให้ลิเวอร์พูลสามารถผ่านเชลซีได้ในรอบรองชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้ และเข้าชิงกับเอซี มิลานอีกครั้ง แต่ก็ต้องพ่ายไป 2-1 สำหรับถ้วยในประเทศก็มีเพียง แชร์ริตี้ชีลด์ กับเชลซีเท่านั้น

เกียรติประวัติ
กับสโมสรลิเวอร์พูลชนะเลิศ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ 2006-2007 เอฟเอคัพ 2005-06 ยูโรเปี้ยนซูเปอร์คัพ 2005-06 ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2004-05 ลีกคัพ 2002-03 ยูโรเปี้ยนซูเปอร์คัพ 2001-02 แชริตี้ชิลด์ 2001-02 ยูฟ่าคัพ 2000-01 เอฟเอคัพ 2000-01 ลีกคัพ 2000-01
เกียรติประวัติส่วนตัว
นักฟุตบอลยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ 2006 ผู้เล่นทรงคุณค่าของยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2004-05 นักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ 2001
ยาวหน่อยแต่คงจะถูกใจแฟนหงษ์นะครับ
ขอขอบคุณ วิกิพีเดีย


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น