วันอาทิตย์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

ดาวรุ่งที่ว่ากันว่าจะเป็น ตอร์เรส 2

นักเตะคนนี้ สื่อจาก ลิเวอร์พูลของเรา ยกให้ ใก้เคียง กับ ตอร์เรส เชียวน้า..... ยังไงลอง อ่านดูละกัน ว่า จริงอย่างที่เขาว่าไว้ไหม
มันเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อ ..กับสิ่งที่คริสเตียน เนเมธได้แสดงให้พวกเราเห็นนับตั้งแต่เขาย้ายมาจาก MTK Hungaria เมื่อหน้าร้อนที่แล้ว การครองบอลที่ลื่นไหล การจบสกอร์อย่างเหนือชั้น และความชาญฉลาดในการเล่น ทำให้ค่าตัวของเจ้าหนูคนนี้ที่ 750,000 ปอนด์ดูจะเป็นอะไรที่คุ้มค่าสุดๆ เราจะมาจับตาดูฤดูกาลแรกที่น่าประทับของคริสเตียนกับลิเวอร์พูลกัน คริสเตียน เนเมธเซ็นต์สัญญาเป็นนักเตะหงส์แดงพร้อมกับเพื่อนร่วมชาติอย่าง Andras Simon ในเดือนพฤษภาคมปีที่แล้วด้วยระยะเวลา 3 ปี ในวันที่เซ็นต์สัญญากันนั้น ราฟาให้ความเห็นไว้ว่า “เราจับตามองนักเตะเหล่านี้มาเป็นเวลานานครับ มีสโมสรชั้นนำมากมายพยายามจะซื้อตัวพวกเขา ทั้ง Real Madrid Ajax หรือ PSV” Mooki3 กล่าวว่า “เกือบจะ 64 ปีแล้วนะครับ ตั้งแต่การลงสนามครั้งแรกของ Feranc Purczeld Biro หรือที่รู้จักกันในนาม Feranc Puskas นักเตะที่ยอดเยี่ยมที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลฮังการี่ ตั้งแต่วันนั้นยังไม่มีนักเตะคนไหนสามารถหรือแม้แต่กล้าจะคาบรัศมีของเขา เขาคือสุดยอดนักเตะอย่างที่ไม่มีใครเทียบเทียม แต่มาถึงวันนี้ มันเป็นเรื่องที่ตกใจและน่าตื่นเต้น.. ในที่สุดเราก็ได้ค้นพบนักเตะที่ควรค่าจะก้าวไปเทียบเท่าตำนานของรุ่นพี่ หนุ่มน้อยจากเมือง Gyor ที่เต็มไปด้วยมนต์สเน่ห์ เขาก็คือ คริสเตียน เนเมธ นั่นเอง เจ้าหนูคริสเตียนนั่นมีความคล้ายคลึงฮีโร่ต่างวัยของเขาค่อยข้างมาก ทั้งสองเริ่มต้นอาชีพนักเตะด้วยวัย

16 ปีเท่ากัน มีสถิติการยิงประตูที่น่าอัศจรรย์ คริสเตียนมีสถิติทำประตูได้ถึง 88.9% ของจำนวนเกมส์ที่เขาลงเล่นกับทีมสำรอง และในเกมส์ทีมชาติเขายังทำได้ดียิ่งกว่านั้นด้วยซ้ำ เขาทำได้ 17 ประตูในช่วงเวลาเพียง 12 นัดที่เขาส่งสนามทั้งในระดับ U19 และ U21 แต่อย่างไรก็ตาม คงเป็นสไตล์การเล่นล่ะมั้งที่ทั้งสองเหมือนกันได้อย่างน่าตกใจ เมื่อทั้งคู่ต่างเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมทั้งในตำแหน่งหน้าต่ำและศูนย์หน้าตัวเป้า” คริสเตียนลงเล่นให้ MTK Hungaria ทั้งสิ้น 37 นัด ทำประตูได้ 14 ลูก เกมส์สุดท้ายของคริสเตีนกับ MTK มีขึ้นเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมปี 2007 ในนัดที่เอาชนะ Ujpest ไปได้เหนาะๆ 2-0 ซึ่งเป็นเกมส์สุดท้ายของ Himgary league ด้วย โดยที่ MTK ปิดฤดูกาลด้วยอันดับที่สอง เป็นรองเพียง Debrecen เท่านั้น โดยในฤดูกาลนั้นเนเมธสามารถทำประตูได้มากถึง 12 ลูกด้วยวัยเพียงน้อยนิด ในปี 2005/2006 เนเมธเล่นให้กับทีมชาติฮังการีชุดต่ำกว่า 17 ปีในรอบคัดเลือกไป UEFA European U17 Football รอบสุดท้ายในปี 2006 **Qualifying round – เนเมธยิงได้ 4 ลูกจากการลงสนาม 3 นัด **Elite round – เนเมธยิงได้ 5 ลูกจากการลงสนาม 3 นัดเช่นกัน คริสเตียนมีโอกาสได้โชว์ฝีเท้าให้กับทีมชาติในการแข่งขันรอบสุดท้ายของ UEFA European Under-17 Football Championship ที่ลักแซมเบิร์กด้วย และก่อนหน้านี้ไม่นานเขาก็ทำไปได้ถึง 7 ประตูใน 3 นัดในการทัวร์แข่งขันของทีมชาติฮังการีชุด U19 ที่ไซปรัส เนเมธกลับมาเริ่มต้นให้กับลิเวอร์พูลเกมส์แรกเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม หลังจากที่ต้องห่างสนามไปด้วยอาการบาดเจ็บ

เนเมธลงสนามให้หงส์แดงนัดแรกในทีมชุดต่ำกว่า 18 ปีด้วยผลการแข่งขันเสมอกับเวสบรอมไปอย่างไร้สกอร์ 0-0 หลังจากนั้นเขาก็ได้ลงสนามให้กับทีมลิเวอร์พูลสำรองอีก1 เดือนถัดไปในนัดพบแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เนเมธเริ่มเกมส์แรกได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ โดยเฉพาะช่วงครึ่งแรกกับแมน ซิตี้ และเกือบจะทำแฮตทริกได้ด้วยซ้ำ หากลูกยิงไม่ชนเสากระเด้งออกมาเสียก่อน หนึ่งอาทิตย์ต่อมา เนเมธได้สานต่อความยอดเยี่ยมจากนัดที่แล้วด้วยการเล่นที่เหนือชั้นอีกครั้ง โดยคราวนี้เป็นเกมส์ดาร์บี้แมตช์กับเอฟเวอร์ตัน เนเมธทำผลอย่างอย่างเลิศหรูทำได้ 4 ประตูจากสองนัดแรกที่ลงสนาม หลังเกมส์กับเอฟเวอร์ตัน แกรี่ แอบเล็ตได้ให้สัมภาษณ์กับ LFC.TV ไว้ว่า “ตอนนี้คริสเตียนกำลังฟอร์มเข้าฝักมากครับ ยิงประตูได้ดีจริงๆ ประตูแรกของเขาแสดงให้เห็นเลยว่าเขาเป็นนักเตะที่มีทักษะแน่นมากๆ ซึ่งเขาก็ทำให้เราเห็นอยู่เสมอในการซ้อมนะครับ” เกมส์ต่อมาที่หงส์แดงต้องพบกับมิดเดิลสโบรส์ เนเมธก็เก็บประตูที่ 5 ใน 3 นัดของตัวเองได้เป็นผลสำเร็จด้วยลูกยิงไกลอันทรงพลังจากระยะ 25 หลา Kid Viravax กล่าวไว้ว่า “คริสเตียนเล่นได้โตเกินวัยจริงๆครับ ได้เลื่อนขั้นจากทีมชาติชุด U19 ไปเป็น U21 แถมยิงประตูได้มากมาย 7 ประตูจาก 6 นัดเลยนะนั่น เนเมธเป็นคนที่เล่นลูกวอลเล่ได้อย่างเป็นธรรมชาติมากที่สุดนึงอย่างที่ผมไม่ได้เห็นมานานแล้ว ตั้งแต่ยุคแจน โมลบี้โน้นครับ เหมือนเขารับรู้ได้เองว่าลูกที่กำลังมาอยู่ระดับไหนและมีความเร็วเท่าไหร่ ลูกที่อกจากเท้าเขาแทบไม่พลาดเป้าเลย ความสามารถแบบนี้ทำให้เขาเป็นปีกในอุดมคติที่เดียว เห็นได้บ่อยๆในทีมชาติ เขาเป็นนักเตะแบบนั้นจริงๆ “เกือบทุกคนยกเขาขึ้นมาเปลี่ยบเทียบกับฟาวเลอร์ และถ้าวัดกันที่สัญชาติยญาณในกรอบเขตโทษแล้วละก็

ผมว่าก็ไม่หนีกันเท่าไหร่ เนเมธไม่เคยเสียบอลง่ายๆให้คู่ต่อสู้ เป็นคนที่เข้าหาและเก็บตกบอลในกรอบโทษได้อย่างน่าอัศจรรย์ และเขาไม่ค่อยแค่นั้นน่ะครับ เขายังสามารถจ่ายลูก ปั้นเกมส์ให้เพื่อน และวิ่งทำทางได้อย่างสุดยอดหลายต่อหลายครั้งในฤดูกาลที่ผ่านมา “เขาเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ผมเห็นว่าเป็นที่จับตามองของราฟาอย่างใกล้ชิด Simon เป็นนักเตะที่ดีไม่เทียบไม่ได้กับมาตรฐานของเนเมธ Gulacsi ก็ยังต้องพิสูจน์ตัวเองอีกมาก ทำให้ผมคิดว่าเนเมธเนี่ยแหละที่น่าจะอยู่ในลิสต์อันดับต้นๆของราฟาเลยทีเดียว เขาดึงนักเตะเหล่านั้นมาด้วย ผมว่าแค่ต้องการให้เนเมธสามารถตั้งตัวและปรับตัวได้เร็วขึ้น ผมว่าเขาคงได้อยู่ที่นี่ไปนานล่ะครับ ฤดูกาลหน้าจะเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่เขาจะได้พิสูจน์ตัวเอง ตอนนี้เขาอายุ 19 แอปเลตตเคยพูดว่าเขามีความสามารถพอที่จะเป็นคิง เคนนี่คนใหม่ได้ ราฟาเองก็บอกเช่นกันว่าเนเมธเป็นนักเตะที่พิเศษคนนึง ผมว่าโอกาสของเขาคงจะมาถึงในอีกไม่นานนี่ครับ ช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เนเมธช่วยให้หงส์สำรองขยับขึ้นเป็นจ่าฝูงโดยมีแต้มมากกว่าทีมอันดับสองถึง 5 แต้ม เมื่อลิเวอร์พูลเปิดบ้านเอาชนะซันเดอร์แลนด์ไป 1-0 และแน่นอนเนเมธเป็นคนทำประตูโทนในนัดนี้ เขาวิ่งจี้หาบอลยาวที่เปิดมาจากผู้รักษาประตู Daivs Martin และเมื่อกองหลังซันเดอร์แลนเ Jean Yves M’Voto ลื่นล้ม เนเมธก็ค่อยๆยกบอลผ่านนายทวารฝั่งตรงข้ามเข้าประตูไปอย่างใจเย็น โดยประตูนี้ถือเป็นประตูที่หกในลีคของเจ้าตัว เนเมธยังคงเล่นได้น่าประทับใจอย่างต่อเนื่อง ยิงประตูชัยในนัดเจอโบลตันในเดือนมีนาคม หลังจากนั้นเหล่านักเตะละอ่อนน้อยก็บินข้ามน้ำข้ามทะเลไปอเมริกาเพื่อลงแข่งขันศึก Dallas Cup หงส์น้อยลสนามอย่างดุดันตลอดทุกนัด และเอาชนะทีม Tigres ของแม็กซิโกไปได้ 3-0 ในรอบชิงชนะเลิศ และเป็นเนเมธอีกแล้วที่ยิงได้ถึงสองประตูในนัดชิง ทำให้ชื่อของเขาแพร่ไปตามสื่อต่างๆ เรียกว่าดังข้ามคืนกันเลย มาถึงช่วงต้นเดือนเมษยา ทีมหงส์น้อยของเราคว้าแชมป็ Barclays Premier Reserve League North ได้เป็นผลสำเร็จ ทั้งที่ยังเหลือเกมส์ให้เล่นอีกถึงสองนัด เมื่อเอาชนะแบล็กเบิร์นไป 1-0 จากประตูสุดสวยของเนเมธในครึ่งแรก มันเป็นประตูที่ 8 ใน11นัดของเขา และทำให้เขาก้าวเป็นดาวซัลโวของลีคสำรองอีกด้วย Shervin เขียนไว้ว่า “เขาเป็นนักเตะคนนึงที่เล่นได้ดีขึ้นในทุกนัดที่ลงสนาม ผมยังจำได้..เกมส์แรก(และคิดว่าเกมส์เดียว)ที่เนเมธลงเล่นให้ทีมชุด U18 ที่บอลดูเหมือนจะไปไม่ถึงเขาเลยตลอดทั้งเกมส์ แต่มันทำให้เราเห็นคาแรกเตอร์ของเขาได้ชัดเจนว่าเขาสู้ไม่ถอย ดูได้เลย

ตอนนี้เขาเป็นดาวซัวโวสูงสุดของลีคสำรองไปแล้ว “โอเคเนเมธไม่ได้มีความเร็วระดับสุดยอดแบบโอเว่น หรือมีการจบสกอร์ระดับเทพแบบฟางเวอร์(อย่างน้อยก็ยังไม่ใช่ตอนนี้) แต่สิ่งนึงที่เขามี และมันก็คือเบื้องหลังของประตูมากมายที่เขาทำได้นั่นก็คือ ไม่มีอะไรในโลกนี้ที่จะทำให้เขาสูญเสียความมั่นใจไปได้ คล้ายที่ตอเรสเป็นนั่นแหละครับ เขาไม่ใช่คนที่จะมาคิดมากกับลูกที่พลาดง่ายๆ หรือถ้าคิดมันก็จะเป็นพลังให้กับเขาต่อไปเท่านั้น เมื่อคุณดูความสามารถของเนเมธที่เข้าหาบอลได้อย่างถูกที่ถูกเวลาเสมอนั่นแล้ว คุณคงจะเชื่อได้เลยทีเดียวว่าคุณเจอนักเตะที่พร้อมจะยิงประตูตลอดเวลาเข้าให้แล้ว “แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ถ้าเอาจริงๆผมว่าจำนวนประตูที่เนเมธทำได้มันทำให้ผมเกือบจะมองข้ามคุณภาพด้านอืนเขามี ผมแทบไม่เคยเห็นนักเตะวัย 19 คนไหนที่มีวิสัยทัศน์ที่ดีแบบคริสเตียนเลย ไม่ใช่แค่เขาสามารถจับทางการวิ่งของเพื่อนได้อย่างแม่นยำนะครับ แต่ยังสามารถคำนวณเวลาและทิศทางจ่ายบอลได้อย่างเหมาะเหม็งอีกด้วย ทั้งหมดนี่มันทำให้ผมเชื่อเหลือเกินว่าเนเมธคงไม่สามารถก้าวไปเล่นทีมชุดใหญ่ได้อย่างไม่มีปัญหา เขาเคยเผชิญหน้ากับนักเตะอย่าง Neville หรือ Pique มาแล้ว ผมว่าเขามั่นใจพอที่จะท้าสู้กับกองหลังที่มากประสบการณ์แล้วครับ” แน่นอนว่าฟอร์มการเล่นของเนเมธไม่มีทางหลุดลอดสายตาของเบนิเตสไปได้ เชื่อกันว่าเบนิเตสคงจะเลื่อนขั้นเนเมธมาเล่นให้ทีมชุดใหญ่ในฤดูกาลหน้านี้ เบนิเตสได้กล่าวกับ LFC.TV ไว้ว่า “เนเมธเล่นบอลได้ดีครับ เขาเป็นผู้เล่นที่ฉลาด มีทักษะและความสามารถในการจบสกอร์ เรากำลังจับตามองเขาอย่างใกล้ชิด และคิดว่าเขาคงเป็นอนาคตดวงใหม่ของเรา โอเคมันไม่ง่ายถ้ามองจากศูนย์หน้าระดับเทพที่เรามีอยู่หรือสถานการณ์ที่เราเป็น แต่เรารู้ดีว่าเขาเป็นนักเตะที่ดีแค่ไหน เขาต้องทำงานหนักและพัฒนาตัวเองต่อไปเรื่อยๆ และผมว่าเขาคงยังไปได้อีกไกลครับเพราะเขาเป็นคนที่รักการเรียนรู้” แกรี่ แอบเล็ตต์เคยพูดถึงเนเมธไว้เช่นกัน โดนเปรียบเทียบเขากับคิง เคนนี่ สุดยอดตำนานคนนึงของหงส์แดงเลยทีเดียว แต่ก็ยังยืนยันว่าเจ้าหนูคริสเตียนยังมีอะไรที่ต้องทำต้องเรียนรู้อีกมากก่อนจะควรคู่กับคำว่า “ราชา” หลังจากได้แชมป์ทีมสำรองฝั่งตอนเหนือ หงส์น้อยของเราต้องเล่นกับแอสตัน วิลล่า ในรอบชิงที่แอนฟิลด์ เพื่อตัดสินว่าใครคือทีมสำรองที่ดีที่สุดในเกาะอังกฤษ มันเป็นเกมส์แรกของเนเมธในแอนฟิลด์ และไม่ต้องสงสัย คริสเตียนทำประตูได้อีกครั้ง.. เขายิงประตูจากบริเวณเส้นกรอบโทษเสียบมุมอย่างสวยงามช่วยให้หงส์แดงขยับขึ้นนำอย่างรวดเร็ว มันเป็นฤดูกาลที่เยี่ยมยุทธของเนเมธ ที่ต้องคว้าทั้งแชมป์ Dallas Cup, Northern Division championship และ National Champion ได้ถึงสามเหรียญในปีเดียว

ขอบคุณข้อมูล จากคุณ maprang

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น